ทางลัดไปอ่าน
Toggleธุรกิจต้องอยู่รอด ต้นทุนต้องยืดหยุ่น ProSeek “IT on Demand” ช่วยได้ในยามเศรษฐกิจผันผวน
ในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวนเช่นปัจจุบัน เราได้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าธุรกิจจำนวนมากต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด โดยเฉพาะ SME ไทยที่ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ในขณะที่ยอดขายกลับลดลง ต้นทุนในการดำเนินงานสูงขึ้น ท่ามกลางความท้าทายนี้ จึงเป็นเหตุผลสำคัญในการนำ ProSeek “IT on Demand” มาใช้เพื่อการบริหารจัดการต้นทุนด้านเทคโนโลยี

เมื่อไอทีไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอด
ถ้าย้อนกลับไปก่อน Covid การลงทุนด้านไอทีอาจเป็นเพียง “ตัวเลือก” สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง แต่วันนี้ ไอทีได้กลายเป็น “ความจำเป็น” ที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นระบบการขาย การบริหารจัดการสินค้า การจัดการลูกค้า หรือการตลาดออนไลน์ ล้วนต้องพึ่งพาระบบไอทีทั้งสิ้น และนี่คือความท้าทายที่หลายธุรกิจกำลังเผชิญ ในขณะที่จำเป็นต้องมีระบบไอทีที่มีประสิทธิภาพเพื่อความอยู่รอด แต่กลับต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงลิ่วและไม่ยืดหยุ่น ส่งผลให้เกิดวงจรที่ยากจะหลุดพ้น
ProSeek “IT on Demand” คืออะไร และทำไมจึงสำคัญในยามวิกฤติ
ProSeek “IT on Demand” คือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างต้นทุนด้านไอทีจากรูปแบบ “ต้นทุนคงที่” (Fixed Cost) ที่ต้องจ่ายเป็นเงินเดือนเท่าเดิมทุกเดือนไม่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้ ไปสู่ “ต้นทุนผันแปร” (Variable Cost) ที่จ่ายตามปริมาณการใช้งานจริง หรือจ่ายรายครั้งตามที่ต้องการ นั่นเพราะว่า
- ธุรกิจมีความต้องการด้านไอทีที่ไม่สม่ำเสมอ: บางช่วงต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาช่วยอัพเกรดระบบ บางช่วงต้องการทีมพัฒนาเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน และบางช่วงอาจต้องการเพียงการบำรุงรักษาระบบเท่านั้น
- การจ้างทีมไอทีประจำมีต้นทุนแฝงมหาศาล: นอกจากเงินเดือนแล้ว ยังมีค่าสวัสดิการ ค่าประกันสังคม ภาษี ค่าฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉลี่ยหากคิดต้นทุนทั้งหมด การจ้างพนักงานไอทีประจำหนึ่งคนอาจสูงถึง 1.4-1.8 เท่าของเงินเดือน
- วงจรธุรกิจมีขึ้นมีลง: ในช่วงเศรษฐกิจดี มีรายได้มาก การแบกรับต้นทุนคงที่อาจไม่เป็นปัญหา แต่เมื่อเศรษฐกิจถดถอย การที่ไม่สามารถลดต้นทุนได้อย่างยืดหยุ่นคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้หลายธุรกิจต้องปิดตัวลง
5 วิธีที่ ProSeek ช่วยให้ธุรกิจไทยอยู่รอดในยุคเศรษฐกิจผันผวน
- ปรับลดต้นทุนได้ทันทีในช่วงวิกฤติ
ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย บริษัทที่ใช้ ProSeek สามารถปรับลดค่าใช้จ่ายด้านไอทีได้ทันที โดยไม่ต้องเลิกจ้างพนักงานประจำ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์องค์กรและขวัญกำลังใจของทีม ขณะเดียวกัน เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว ก็สามารถเพิ่มกำลังคนได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน - เข้าถึงความเชี่ยวชาญที่หลากหลายในราคาที่จับต้องได้
ธุรกิจ SME มักไม่สามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญไอทีหลากหลายสาขาเป็นพนักงานประจำได้ เนื่องจากต้นทุนสูงเกินไป แต่ด้วย ProSeek พวกเขาสามารถเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญระดับสูงในหลากหลายสาขาได้ในราคาที่สมเหตุสมผล และจ่ายเฉพาะเมื่อใช้งานจริง - ลดความเสี่ยงจากการลงทุนด้านไอทีที่ไม่แน่นอน
การพัฒนาระบบไอทีใหม่ๆ มักมาพร้อมกับความเสี่ยงสูง หลายโปรเจกต์อาจล้มเหลวหรือใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ การใช้ ProSeek ช่วยลดความเสี่ยงนี้ เพราะคุณสามารถปรับเปลี่ยนทีมหรือยกเลิกโปรเจกต์ได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับการมีทีมพัฒนาภายใน
อีกทั้ง ProSeek มีระบบการคัดกรองและรับประกันคุณภาพของผู้เชี่ยวชาญ ทำให้โอกาสในการประสบความสำเร็จของโปรเจกต์สูงขึ้น - เปลี่ยนต้นทุนคงที่เป็นต้นทุนผันแปร
หัวใจของ ProSeek “IT on Demand” คือการเปลี่ยนต้นทุนจาก “Fixed Cost” เป็น “Variable Cost” ซึ่งหมายความว่าบริษัทจะจ่ายค่าใช้จ่ายตามปริมาณการใช้งานจริง ในช่วงที่งานน้อย ค่าใช้จ่ายก็น้อยตาม ช่วงไหนงานเยอะ ก็ค่อยเพิ่มกำลังคน
ความยืดหยุ่นนี้ทำให้บริษัทสามารถควบคุมกระแสเงินสด (Cash Flow) ได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการอยู่รอดของธุรกิจในช่วงวิกฤติ - โฟกัสที่ธุรกิจหลัก ไม่ต้องกังวลกับการบริหารทีมไอที
หลายธุรกิจ SME พบว่าการบริหารทีมไอทีเป็นเรื่องยาก ทั้งการสรรหาคนที่มีคุณภาพ การฝึกอบรม การประเมินผลงาน และการรักษาคนเก่งไว้กับองค์กร การใช้ ProSeek ช่วยลดภาระเหล่านี้ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถโฟกัสกับธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่

ความยืดหยุ่นคือกุญแจสู่ความอยู่รอด
ในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน “ความยืดหยุ่น” คือกุญแจสำคัญที่จะพาธุรกิจไปสู่ความอยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืน ProSeek “IT on Demand” ไม่เพียงช่วยลดต้นทุน แต่ยังเพิ่มขีดความสามารถทางเทคโนโลยีให้กับธุรกิจในราคาที่จับต้องได้ โมเดล “จ่ายเมื่อใช้” (Pay as You Go) อาจเป็นทางออกที่ดีกว่าสำหรับธุรกิจของคุณ สนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ProSpace ได้ที่ โทร : 085-449-7373 หรือ Email SALES@PROSPACE.SERVICE หรือทำนัดเราเพื่อรับการปรึกษาฟรีได้เลย