เปลี่ยนงานอีเวนต์ธรรมดาให้เป็น Smart Event ด้วยระบบ WiFi Rental และ Marketing Platform

เปลี่ยนงานอีเวนต์ธรรมดาให้เป็น Smart Event ด้วย WiFi Rental เสริมพลังด้วย Marketing Platform

การจัดงานอีเวนต์เวลานี้ให้ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีมากกว่าแค่สถานที่สวยงามหรือเนื้อหาที่น่าสนใจ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือประสบการณ์ดิจิทัลที่นำมาช่วยให้อีเวนต์มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้เข้าร่วมงาน และนี่คือจุดที่บริการ WiFi Rental จาก ProSpace ที่มีให้มากกว่า การให้แค่เช่า WiFi ซึ่งจะเข้ามาเปลี่ยนโฉมงานอีเวนต์ธรรมดาให้กลายเป็น Smart Event ที่ล้ำสมัยที่สุด

ทำไมต้อง WiFi Rental จาก ProSpace สำหรับงานอีเวนต์

การใช้งาน WiFi สำหรับงานอีเวนต์ไม่ใช่แค่เรื่องของการให้ผู้เข้าร่วมงานเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่โลกแห่งโอกาสทางการตลาดและการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ ด้วยระบบ Marketing Platform Services ที่มาพร้อมกับบริการ WiFi Rental คุณสามารถยกระดับงานอีเวนต์ของคุณได้มากกว่าที่เคยเป็น ได้แก่

1. การลงทะเบียนและการเช็คอินแบบไร้รอยต่อ

ลืมการต่อแถวยาวเหยียดเพื่อลงทะเบียนไปได้เลย ด้วยบริการ Marketing Platform Services คุณสามารถสร้างระบบลงทะเบียนออนไลน์ที่ผู้เข้าร่วมงานสามารถทำได้ผ่านสมาร์ทโฟนของตนเองทันทีที่เชื่อมต่อ WiFi ของงาน ไม่เพียงแต่จะช่วยลดเวลาและความวุ่นวาย แต่ยังช่วยให้คุณเก็บข้อมูลผู้เข้าร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. การนำทางภายในงานแบบอัจฉริยะ

สำหรับงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ที่มีหลายโซนหรือหลายห้องประชุม บริการ Marketing Platform Services สามารถช่วยสร้างระบบนำทางในร่ม (Indoor Navigation) ที่แม่นยำ ผู้เข้าร่วมงานสามารถค้นหาห้องประชุม บูธ หรือจุดสนใจต่างๆ ได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ช่วยลดความสับสนและเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

3. การส่งข้อมูลและการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์

ด้วยความสามารถในการระบุตำแหน่งของผู้ใช้ WiFi บริการ Marketing Platform Services ช่วยให้คุณส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องและแจ้งเตือนได้อย่างแม่นยำ เช่น แจ้งเตือนเมื่อใกล้ถึงเวลาเริ่มการบรรยายในห้องที่ผู้เข้าร่วมงานสนใจ หรือส่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้บรรยายหรือหัวข้อที่กำลังจะเริ่มขึ้น

4. การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เข้าร่วมงานแบบ Insight

บริการ Marketing Platform Services ไม่เพียงแต่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้เข้าร่วมงานเท่านั้น แต่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าแก่ Event Organizer ทำให้สามารถวิเคราะห์การไหลเวียนของผู้คนในงาน ระยะเวลาที่ใช้ในแต่ละโซน และความนิยมของกิจกรรมต่างๆ ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงการจัดงานในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. การสร้างแคมเปญการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง (Tailored Made Marketing)

ด้วยข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ ทีมผู้จัดงานสามารถสร้างแคมเปญการตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เช่น ส่งโปรโมชันพิเศษให้กับผู้ที่สนใจในหัวข้อหรือผลิตภัณฑ์เฉพาะ หรือเชิญชวนให้เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของแต่ละคน

6. การสร้างปฏิสัมพันธ์แบบเรียลไทม์

Marketing Platform Services เปิดโอกาสให้คุณสร้างกิจกรรมแบบอินเทอร์แอคทีฟได้หลากหลาย เช่น การโหวตแบบเรียลไทม์ การถามคำถามผู้บรรยายผ่านแอป หรือการสำรวจความคิดเห็นแบบทันที สิ่งเหล่านี้ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและทำให้งานของคุณมีความน่าสนใจมากขึ้น

7. การรวบรวมข้อมูลติดต่อแบบอัตโนมัติ

ลืมการแลกนามบัตรแบบเดิมๆ ไปได้เลย ด้วย Marketing Platform Services ผู้เข้าร่วมงานสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้การสร้างเครือข่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบายมากขึ้น

8. การสร้างสุดยอดประสบการณ์ให้กับผู้เข้าร่วมงาน

จากการลงทะเบียนไปจนถึงการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ บริการ Marketing Platform Services ช่วยให้คุณสร้างประสบการณ์ที่ดีและเป็นส่วนตัวสำหรับผู้เข้าร่วมงานแต่ละคน ตั้งแต่การแนะนำตารางกิจกรรมที่เหมาะสม ไปจนถึงการอำนวยความสะดวกในการนัดหมายกับผู้เข้าร่วมงานคนอื่นๆ

9. การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

ในยุคที่ความปลอดภัยของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ Marketing Platform Services มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าข้อมูลของผู้เข้าร่วมงานจะได้รับการปกป้องอย่างดีที่สุด

10. การวัดผลและการรีพอร์ทจำนวนผู้เข้าร่วมงานอย่างครอบคลุม

หลังจบงานบริการ Marketing Platform Services จากทีมงาน ProSpace จะให้รายงานที่ครอบคลุมและละเอียดที่จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวม และสามารถประเมินความสำเร็จของงานได้ถูกต้องครบถ้วน ตั้งแต่จำนวนผู้เข้าร่วม การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ไปจนถึงข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ในการวางแผนงานครั้งต่อไป

การประยุกต์ใช้ WiFi Rental กับ Marketing Platform Services ในงาน Event ประเภทต่างๆ

งานสัมมนาทางธุรกิจ

ใช้ระบบนำทางเพื่อช่วยผู้เข้าร่วมหาห้องประชุมได้ง่าย ส่งข้อมูลประวัติวิทยากรและเอกสารประกอบการบรรยายแบบดิจิทัล จัดกิจกรรมลงคะแนนรวมถึงถามคำถามแบบเรียลไทม์ระหว่างการบรรยาย

งานแสดงสินค้า

ใช้ระบบติดตาม การเยี่ยมชมบูธของผู้เข้าร่วมงาน เพื่อวิเคราะห์ความนิยมของแต่ละบูธ ส่งโปรโมชันพิเศษให้ผู้เข้าชมตามความสนใจที่แสดงออกผ่านการเยี่ยมชมบูธต่างๆ อำนวยความสะดวกในการนัดหมายระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

งานประชุมวิชาการ

จัดการลงทะเบียนเข้าร่วมเซสชั่นต่างๆ แบบออนไลน์ แจ้งเตือนการนำเสนอผลงานวิจัยที่น่าสนใจตามหัวข้อที่ผู้เข้าร่วมเลือกไว้ เก็บข้อมูลการเข้าร่วมเซสชั่นเพื่อออกใบรับรองการเข้าร่วมงาน

งานเทศกาลดนตรี

ใช้ระบบนำทางเพื่อช่วยผู้เข้าร่วมหาเวทีการแสดงและจุดบริการต่างๆ ส่งข้อมูลตารางการแสดงและการเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ จัดการระบบการสั่งอาหารและเครื่องดื่มแบบออนไลน์เพื่อลดการเข้าคิว

งานประชุมผู้ถือหุ้น

จัดการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนแบบดิจิทัล อำนวยความสะดวกในการลงคะแนนเสียงผ่านแอปพลิเคชัน ส่งเอกสารประกอบการประชุมแบบดิจิทัลเพื่อลดการใช้กระดาษ

งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์

ใช้ระบบการนำทางและแสดงผลเพื่อเน้นไฮไลท์และคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่งวิดีโอและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แบบเรียลไทม์ให้กับผู้เข้าชม ผู้เข้าร่วมสามารถทดลองผลิตภัณฑ์ นำเสนอประสบการณ์การเชื่อมต่อที่เสถียรและการสื่อสารที่ไม่มีสะดุด

การเช่า WiFi พร้อมระบบ Marketing Platform Services โดยเฉพาะจากทีมงาน ProSpace ไม่เพียงแต่จะช่วยให้งานอีเวนต์ออกมาทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้วเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าสำหรับทีมผู้จัด หรือ บูธที่มาเข้าร่วมงาน สนใจหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร : 085-449-7373 หรือ Email : SALES@PROSPACE.SERVICE

บริการ WiFi rental ของเรา

  • บริการ WiFi สำหรับงานอีเว้นท์
  • รองรับลูกค้าปริมาณมาก
  • สัญญาณเสถียร ต่อครั้งเดียวใช้ได้ทั้งงาน
  • รู้พฤติกรรมลูกค้าผ่าน Heatmap

วิกฤตหรือโอกาส? Fortinet เผยสถานการณ์ขาดแคลนบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์

วิกฤตหรือโอกาส? Fortinet เผยสถานการณ์ขาดแคลนบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์

เปิดเผยสถานการณ์วิกฤตหรือโอกาสในการขาดแคลนบุคลากรความปลอดภัยไซเบอร์จากรายงาน ‘2024 Global Cybersecurity Skills Gap Report’ ของ Fortinet ที่ชี้ให้เห็นผลกระทบร้ายแรงต่อองค์กรจากการเพิ่มขึ้นของการโจมตีไซเบอร์ พร้อมทั้งความพยายามขององค์กรในการเสริมสร้างความเชี่ยวชาญและเตรียมความพร้อมให้กับพนักงาน เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรและการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพื่อป้องกันภัยคุกคามในยุคดิจิทัล

Continue reading

วิกฤติ BSOD: เมื่อความกลัวกลายเป็นความเสี่ยง 5 วิธีอัพเดทซอฟต์แวร์อย่างมั่นใจ

วิกฤติ BSOD ทั่วโลกเผยให้เห็นความสำคัญของการอัพเดทซอฟต์แวร์ เรียนรู้วิธีจัดการความกลัวการอัพเดท ทำไมการไม่อัพเดทอาจอันตรายกว่า และ 5 แนวทางอัพเดท Patch อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสี่ยงทางไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพระบบ

Continue reading

PDPA เข้าใจได้ไม่ยาก คู่มือฉบับย่อสำหรับทุกเจ้าของธุรกิจ SME

PDPA เข้าใจได้ไม่ยาก คู่มือฉบับย่อสำหรับทุกเจ้าของธุรกิจ SME

ในโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน ข้อมูลคือทรัพย์สินที่มีค่ามหาศาล ในขณะเดียวกันนั้นก็เป็นความรับผิดชอบที่สูงมากสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่ต้องดูแลอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ การบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA (Personal Data Protection Act) จึงไม่ใช่เพียงเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจ SME ในการยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

 

PDPA ไม่ใช่เพียงชุดของกฎหมายที่รัฐออกมาให้ปฏิบัติตามเท่านั้น แต่ในอีกมุมก็เป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล สำหรับ SME การนำ PDPA มาปรับใช้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างความไว้วางใจจากลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลทางการเงิน ประวัติการศึกษาและการทำงาน ข้อมูลสุขภาพ รวมถึงข้อมูลละเอียดอ่อนอื่นๆ 

 

การปฏิบัติตาม PDPA นำมาซึ่งความท้าทายสำหรับ SME ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน การลงทุนในเทคโนโลยีและระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูล การฝึกอบรมพนักงาน และการจัดการความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็นำมาซึ่งโอกาสในการสร้างความแตกต่างและความได้เปรียบในการแข่งขัน การเพิ่มความไว้วางใจจากลูกค้าและพันธมิตร การพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ และการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ

เริ่มต้นปฏิบัติตาม PDPA

สำหรับ SME ที่ต้องการเริ่มต้นปฏิบัติตาม PDPA อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งแรกที่ควรทำคือการตรวจสอบและจัดทำบัญชีข้อมูลส่วนบุคคลที่องค์กรมีอยู่ ระบุประเภทข้อมูล วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและใช้งาน รวมถึงแหล่งที่มาและระยะเวลาในการเก็บรักษา จากนั้นจึงจัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวที่อธิบายวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจน และเผยแพร่ให้ลูกค้าและผู้เกี่ยวข้องทราบ

การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเป็นอีกขั้นตอนสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างถูกต้อง โดยออกแบบกระบวนการที่ชัดเจน เข้าใจง่าย และให้ทางเลือกแก่เจ้าของข้อมูลในการให้หรือถอนความยินยอม พร้อมทั้งเก็บบันทึกการให้ความยินยอมอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ SME อาจพิจารณานำเทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูลมาใช้ จำกัดการเข้าถึงข้อมูลเฉพาะผู้ที่มีความจำเป็น และติดตั้งระบบป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์

แผนรับมือช่วยธุรกิจ SME ยั่งยืน

การเตรียมแผนรับมือเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ SME ควรให้ความสำคัญ โดยจัดทำขั้นตอนการแจ้งเตือนและรายงานเหตุละเมิด ฝึกซ้อมแผนอย่างสม่ำเสมอ และกำหนดผู้รับผิดชอบและช่องทางการสื่อสารในกรณีเกิดเหตุ ที่สำคัญไม่แพ้กันคือการฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ PDPA และตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยข้อมูล

การปฏิบัติตาม PDPA นำมาซึ่งประโยชน์มากมายสำหรับ SME นอกเหนือจากการหลีกเลี่ยงบทลงโทษทางกฎหมาย การสร้างความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือจากลูกค้าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาลูกค้าเดิมและดึงดูดลูกค้าใหม่ การมีระบบจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพยังช่วยให้องค์กรสามารถนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์และพัฒนาธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในการร่วมงานกับพันธมิตรและลูกค้าระดับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับ PDPA รวมถึงการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศที่มีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เข้มงวด

ในการปฏิบัติตาม PDPA อย่างมีประสิทธิภาพ SME อาจพิจารณานำเทคโนโลยีและเครื่องมือต่างๆ มาใช้ เช่น ระบบบริหารจัดการความยินยอม ระบบจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ระบบเข้ารหัสข้อมูล ระบบบริหารจัดการสิทธิการเข้าถึงข้อมูล และระบบตรวจจับและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ทั้งนี้ การเลือกใช้เครื่องมือควรพิจารณาให้เหมาะสมกับขนาดและความต้องการของธุรกิจ

สำหรับ SME ที่กำลังเริ่มต้นปฏิบัติตาม PDPA ควรเริ่มจากการประเมินสถานะปัจจุบันขององค์กร สร้างทีมงานรับผิดชอบ พัฒนานโยบายและขั้นตอนการปฏิบัติงาน ปรับปรุงกระบวนการทำงาน นำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ และฝึกอบรมพนักงาน ที่สำคัญคือต้องมีการตรวจสอบและปรับปรุงการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและความต้องการทางธุรกิจ

ข้อควรระวังสำหรับ SME ในการปฏิบัติตาม PDPA

ข้อควรระวังสำหรับ SME ในการปฏิบัติตาม PDPA คือ อย่าละเลยการจัดการข้อมูลออฟไลน์ ระมัดระวังการใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอก เตรียมพร้อมสำหรับการรองรับการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล และใส่ใจกับการส่งข้อมูลไปต่างประเทศ นอกจากนี้ SME อาจพิจารณาการทำประกันภัยไซเบอร์เพื่อลดความเสี่ยงทางการเงินในกรณีเกิดเหตุละเมิดข้อมูล

การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไม่เพียงแต่เป็นหน้าที่ตามกฎหมาย แต่ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสร้างความไว้วางใจที่ยั่งยืนกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย SME ที่สามารถปรับตัวและนำ PDPA มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพจะมีความได้เปรียบในการแข่งขันและพร้อมรับมือกับความท้าทายในโลกธุรกิจยุคใหม่ได้อย่างมั่นคงและหากท่านต้องการที่ปรึกษาเพื่อการจัดทำ PDPA ให้เหมาะสมกับงบประมาณของบริษัทที่ได้ตั้งไว้ สามารถติดต่อทีมงาน ProSpace เรามีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษา ดำเนินการ รวมถึงเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมให้กับแต่ละองค์กร โดยสามารถติดต่อมาได้ที่  โทร : 085-449-7373 หรือ Email : SALES@PROSPACE.SERVICE

PDPA will come into full effect on June 2022

ปฏิบัติตาม PDPA ได้อย่างครบถ้วนจบในที่เดียว

ปฏิบัติตาม PDPA ได้อย่างครบถ้วนจบในที่เดียว ด้วยผู้เชี่ยวชาญจาก DataWow x ProSpace ที่จะเข้าไปช่วยออกเเบบ
ให้คำปรึกษา และทำให้องค์กรของคุณพร้อมรับมือกับ PDPA ได้อย่างเต็มรูปแบบ 

ศึกมัลแวร์เรียกค่าไถ่ จะทำอย่างไรเมื่อต้องเปิดสงครามกับแฮกเกอร์ในโรงพยาบาล

ศึกมัลแวร์เรียกค่าไถ่ จะทำอย่างไรเมื่อต้องเปิดสงครามกับแฮกเกอร์ในโรงพยาบาล

ความท้าทายของโรงพยาบาลในยุคดิจิทัล

โรงพยาบาลขนาดกลาง ที่มีเครือข่ายอยู่หลายพื้นที่ทั่วประเทศ แม้จะดำเนินการด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่อาจถือได้ว่าเข้มแข็ง โดยโรงพยาบาลมีทั้งไฟร์วอลล์ที่ติดตั้ง มีซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส มีการฝึกอบรมพนักงานเป็นประจำในเรื่องข้อปฏิบัติพื้นฐานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ อย่างไรก็ตามพบว่า ทีมไอทีของโรงพยาบาลก็ไม่มีเวลามากนักกับการอัปเดตแนวโน้มความปลอดภัยไซเบอร์ใหม่ๆ เนื่องจากตัวงานที่ฝ่ายไอทีรับผิดชอบก็มีอยู่มากมายหลายสิ่ง ไหนจะทำ Network Support ไหนจะทำ Helpdesk บางทีก็ต้องจัดอบรมให้กับหมอและพยาบาล ฯลฯ ครั้นโจรไซเบอร์เองก็ขยันหาช่องโหว่ รูรั่วของระบบใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่แพ้กัน

แนวโน้มใหม่ของ Ransomware

Ransomware (การโจมตีด้วยมัลแวร์ประเภทเรียกค่าไถ่) ปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น สิ่งที่กลายเป็นแนวโน้มใหม่ของมัลแวร์เรียกค่าไถ่คือ การใช้ประโยชน์จากบริการการเข้าถึงระยะไกล (Remote Access Services) ซึ่งแฮกเกอร์จะเข้ารหัสข้อมูล และข่มขู่ว่าจะเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนหากไม่ได้รับเงินค่าไถ่ อีกทั้งผู้โจมตียังใช้เทคนิค Living-off-the-Land (LotL) ซึ่งยากต่อการตรวจจับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าองค์กรกำลังใช้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยแบบเดิมที่ค้นหามัลแวร์ที่รู้จักเท่านั้น เนื่องจากช่องโหว่ในชุดเครื่องมือรักษาความปลอดภัยเอง อีกทั้งแฮกเกอร์มักจะซุกซ่อนอยู่ในสภาพแวดล้อมของเหยื่อได้นานหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือแม้กระทั่งหลายปี ซึ่งนี่ถือเป็นวิวัฒนาการที่สำคัญของวิธีการโจมตีของโจรไซเบอร์ด้วยมัลแวร์ประเภทนี้

ตัวอย่างเหตุการณ์โจมตีในโรงพยาบาล

พบว่า มีเคสโรงพยาบาลในต่างประเทศได้ตกเป็นเหยื่อของมัลแวร์เรียกค่าไถ่ โดยแฮกเกอร์ได้สังเกตการณ์เน็ตเวิร์คของโรงพยาบาลเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ผ่านการแฝงตัวเข้ามาในระบบ แล้วเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อพยายามทำความเข้าใจการดำเนินงานของโรงพยาบาล โดยเริ่มต้นเข้ามาด้วยวิธีการแฮกข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมยและตรวจพบเจอบน Darkweb และใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Remote Access Services (บริการเข้าถึงระยะไกล) หลังจากนั้นจึงโจมตีขั้นสุดท้ายด้วย Ransomware ทั้งการเข้ารหัสข้อมูลประวัติของผู้ป่วยและข่มขู่ว่าจะเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์ที่เป็นความลับหากไม่จ่ายเงินค่าไถ่

ตัวอย่างเหตุการณ์จริง : บริษัทการแพทย์ถูกปรับหลังโดน Ransomware โจมตี, เครือโรงพยาบาลในสหรัฐฯ ถูก Ransomware โจมตี ต้องยกเลิกนัดทั้งหมด เหลือเฉพาะกรณีฉุกเฉิน

ผลกระทบของการโจมตี

ทีมงานไอทีของโรงพยาบาลตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ระบบสำรองข้อมูลของโรงพยาบาลเก่าและล้าสมัย และเนื่องจากไม่มีซอฟต์แวร์ EDR และแผนรับมือเหตุการณ์ที่ดี จึงพลาดและถูกโจมตีจนกระทั่งสายเกินแก้ แฮกเกอร์เรียกร้องค่าไถ่มูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐ และโรงพยาบาลต้องเผชิญกับความเป็นไปได้ที่ข้อมูลของผู้ป่วยจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก

 

DALL·E 2024-07-17 14.52.16 - A team of cybersecurity professionals in a meeting room, strategizing over a large table scattered with laptops, digital tablets, and documents. They

บทเรียนและทางแก้ปัญหา

การโจมตีครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง โรงพยาบาลต้องปิดระบบของตนเองชั่วคราว ส่งผลกระทบต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยและทำให้การรักษาต้องล่าช้าออกไป ในที่สุดโรงพยาบาลแห่งนี้ก็ตัดสินใจจ่ายค่าไถ่เต็มจำนวนเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้โรงพยาบาลต้องสูญเสียเงินหลายสิบล้านจากการโดนเรียกค่าไถ่เท่านั้น แต่ยังต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ อีกในการคืนสภาพระบบให้กลับมาใช้ได้เหมือนเดิมบวกกับรายได้ที่สูญเสียไปในช่วงที่ต้องปิดระบบชั่วคราว นอกจากนี้ชื่อเสียงของโรงพยาบาลยังได้รับความเสียหายอย่างหนัก อีกทั้งความไว้วางใจจากผู้ป่วยก็ลดน้อยลงอย่างมาก

หากไม่อยากปวดหัวกับเรื่องอย่างนี้ Business Solution : Firewall as a Services จากทีมงาน ProSpace ก็จะช่วยให้ผู้บริหารโรงพยาบาลมีทางเลือกมากขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้น บริการ Business Solution : Firewall as a Services จะช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยไซเบอร์แบบครบวงจรให้กับองค์กร ตั้งแต่การป้องกัน การตรวจจับ การวิเคราะห์ และการตอบสนองต่อภัยคุกคามต่างๆ ด้วยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัย 

ประโยชน์ของ Business Solution: Firewall as a Service

สำหรับธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพ เช่น โรงพยาบาล คลีนิค สถานเสริมความงาม การใช้บริการ Business Solution : Firewall as a Services จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เนื่องจากข้อมูลทางการแพทย์ของผู้ป่วยถือเป็นข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนสูง เกี่ยวข้องกับกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่งมีโทษทางแพ่ง อาญา และปกครองรวมถึง หากข้อมูลเหล่านี้รั่วไหล อาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรงต่อชีวิตและความปลอดภัยของผู้ป่วย รวมถึงชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือขององค์กร

บริการ  Business Solution : Firewall as a Services จะมีระบบเฝ้าระวัง ตรวจจับ และวิเคราะห์ภัยคุกคามตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมนำเสนอรายงานและคำแนะนำในการรับมือกับภัยคุกคามนั้นๆ นอกจากนี้ยังมีทีมตอบสนองเหตุฉุกเฉิน พร้อมดำเนินการแก้ไขและหยุดยั้งการโจมตีได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสียข้อมูลสำคัญหรือการหยุดชะงักของระบบ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและความปลอดภัยของผู้ป่วย สนใจสอบถามหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

สนใจสอบถามหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โทร : 085-449-7373 หรือ Email : SALES@PROSPACE.SERVICE

Firewall as a Service

ช่วยออกแบบความปลอดภัยเน็ตเวิร์ค พร้อมกับทีมผู้เชี่ยวชาญดูแล​

  • Firewall subscription model
  • พร้อมพนักงานบริหารจัดการระบบหลังบ้าน
  • มีการตั้งค่า configuration ตามนโยบายบริษัท
  • มีที่ปรึกษาดูแลระบบตลอดอายุสัญญา

ความลับของ Wi-Fi High Density กับ การออกแบบ Wi-Fi สำหรับงานอีเวนต์ขนาดใหญ่

ความลับของ Wi-Fi High Density กับ การออกแบบ Wi-Fi สำหรับงานอีเวนต์ขนาดใหญ่

ในยุคที่เทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน Wi-Fi กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนคาดหวังว่าจะมีการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียร โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากและพร้อมกัน เช่น หอประชุม ห้องสัมมนา หรืองานแสดงสินค้า ซึ่งการออกแบบและติดตั้ง Wi-Fi ในลักษณะนี้ต้องใช้ความรู้และทักษะที่ต่างจากการออกแบบ Wi-Fi สำหรับใช้งานทั่วไปอย่างมาก บทความนี้จะพาทุกท่านมาเรียนรู้เกี่ยวกับการติดตั้ง Wi-Fi High Density และประเด็นที่เกี่ยวข้องที่ต้องรู้

Wi-Fi High Density คืออะไร?

Wi-Fi High Density คือระบบเครือข่ายไร้สายที่มีไว้เพื่อรองรับการเชื่อมต่อของอุปกรณ์จำนวนมากในพื้นที่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต่างจาก Wi-Fi ทั่วไปที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในบ้านหรือออฟฟิสที่มีอุปกรณ์เชื่อมต่อไม่มาก การออกแบบและการดูแลระบบ Wi-Fi High Density ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ เช่น การจัดการกับการชนกันของสัญญาณ การบริหารจัดการช่องสัญญาณ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งข้อมูล

ปัญหาที่มักพบในการใช้งาน Wi-Fi ในพื้นที่หนาแน่น

  1. Interference (การชนกันของสัญญาณ) เมื่อมีอุปกรณ์เชื่อมต่อจำนวนมาก คลื่นวิทยุของ Wi-Fi จะชนกัน ทำให้ความเร็วในการเชื่อมต่อลดลง การวางแผนและการจัดการช่องสัญญาณจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
  2. Bandwidth Management (การจัดการแบนด์วิธ) เมื่อมีผู้ใช้งานจำนวนมาก การบริหารแบนด์วิธเพื่อให้ทุกคนสามารถเชื่อมต่อได้อย่างราบรื่นเป็นสิ่งจำเป็น
  3. Access Control (การควบคุมการเข้าถึง) การตรวจสอบและควบคุมการเข้าถึงเครือข่ายเพื่อป้องกันการใช้งานที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดความปลอดภัย

ขั้นตอนการออกแบบ Wi-Fi High Density

  1. การวิเคราะห์สถานที่ (Site Survey) เป็นขั้นตอนสำคัญในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่จะติดตั้ง Wi-Fi รวมถึงการวัดระดับสัญญาณ Wi-Fi ที่มีอยู่ และการทดสอบการรบกวนของสัญญาณ ทั้งตัว Wi-Fi เอง หรือคลื่นวิทยุอื่นๆในพื้นที่
  2. การวางแผนช่องสัญญาณ (Channel Planning) การจัดการและเลือกช่องสัญญาณให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการชนกันของสัญญาณและการจัด Channel เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อ
  3. การกำหนดจุดติดตั้ง Access Point (AP Placement) การกำหนดตำแหน่งของ Access Point ให้เหมาะสม เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานและลดการชนกันของสัญญาณ จะพบว่าบางพื้นที่ต้องติดตั้งยก AP ให้สูง หรือบางทีจะพบการติดที่ใต้โต๊ะหรือเก้าอี้สัมมนา ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมเป็นสำคัญ
  4. การตั้งค่าและปรับแต่ง (Configuration and Optimization) การตั้งค่าและปรับแต่ง Access Point เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด เช่น การกำหนดค่า QoS (Quality of Service) และการปรับแต่งพารามิเตอร์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับการใช้งาน Application ต่างๆ 
  5. การทดสอบและปรับปรุง (Testing and Optimization) หลังจากการติดตั้งแล้ว จะต้องมีการทดสอบระบบและปรับปรุงตามผลการทดสอบเพื่อให้ทุกฝ่ายมั่นใจได้ว่าระบบจะมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
DALL·E 2024-07-08 09.01.37 - A square image depicting a technician installing Access Points (APs) at an event venue. The scene includes a technician climbing a ladder to install a

การดูแล รักษาและใช้งานระบบ Wi-Fi High Density

  1. การตรวจสอบและวิเคราะห์ (Monitoring and Analysis) การตรวจสอบการทำงานของเครือข่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อหาปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและแก้ไขที่หน้างานได้ทันที
  2. การอัปเดตเฟิร์มแวร์ (Firmware Updates)  การอัปเดตเฟิร์มแวร์ของอุปกรณ์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัย เช่นการแก้ไข bug ที่ออกมาเพื่อลดช่องโหว่จากการโจมตีของแฮกเกอร์
  3. การจัดการอุปกรณ์ (Device Management) การจัดการอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเพื่อป้องกันการใช้งานที่ละเมิดมาตราฐานความปลอดภัย และสามารถมอนิเตอร์ได้แบบเรียลไทม์
  4. การเพิ่มประสิทธิภาพ (Optimization) การปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายตามการเปลี่ยนแปลงของการใช้งานและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง

ทำไมถึงควรใช้มืออาชีพในการออกแบบและดูแล Wi-Fi High Density

การออกแบบและดูแลระบบ Wi-Fi High Density เป็นงานที่ซับซ้อนและต้องการความรู้เฉพาะทาง การที่ทีมงานไอทีจะสามารถออกแบบและดูแลระบบเองอาจจะต้องใช้เวลาในการศึกษาทำความเข้าใจทั้งเรื่องของทฤษฎี และ รายละเอียดของแต่ละอุปกรณ์ ดังนั้นการเลือกใช้บริการจากมืออาชีพที่มีความรู้และประสบการณ์ในการออกแบบและดูแลระบบผ่าน Wi-Fi Rental จึงเป็นทางเลือกที่ดีและเหมาะสมกว่า

หนึ่งในบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้คือ ProSpace ซึ่งมีทีมงานที่มีความรู้และประสบการณ์ในการออกแบบและดูแลระบบ Wi-Fi High Density ผ่านการทีมงานผู้ให้บริการ Wi-Fi Rental โดยเฉพาะ

  1. ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ทีมงานของ ProSpace มีความรู้และประสบการณ์ในการออกแบบและดูแลระบบ Wi-Fi Rental ในสถานที่ต่างๆ เช่น หอประชุม ห้องสัมมนา และงานแสดงสินค้า
  2. การวิเคราะห์และวางแผนอย่างมืออาชีพ โดย ProSpace ใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยในการวิเคราะห์และวางแผนออกแบบการติดตั้ง Wi-Fi เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีที่สุด
  3. การสนับสนุนและบริการหลังการขาย ProSpace มีบริการสนับสนุนการทำงานในวันงาน และ ตลอดบริเวณงาน เพื่อให้แน่ใจว่าระบบ Wi-Fi ที่ติดตั้งจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา
  4. การปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพตามความต้องการ ProSpace มี tools ที่เป็นเครื่องมือเสริมเพื่อช่วยปรับแต่ง และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ Wi-Fi รวมถึงมีระบบในการเก็บข้อมูลเพื่อใช้งานด้านการตลาด ตามความต้องการเฉพาะของแต่ละลูกค้า ในแต่ละงานที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน

การเลือกใช้บริการจากมืออาชีพอย่าง ProSpace จะช่วยให้ทุกงานทุกอีเวนต์มั่นใจได้ว่าระบบ Wi-Fi ที่พี่ๆ ใช้งานจะมีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถรองรับการใช้งานของผู้ใช้งานจำนวนมากได้โดยราบรื่น ProSpace เป็นบริการทางเลือกเพื่อให้พี่ๆ มั่นใจว่าระบบ Wi-Fi ของพี่ๆจะมีประสิทธิภาพและเสถียรตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะต้องการติดตั้ง Wi-Fi High Density ในหอประชุม ห้องสัมมนา คอนเสิร์ต หรืองานแสดงสินค้าต่างๆ  ProSpace มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่จะทำให้ระบบของพี่ๆทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ลองให้มืออาชีพจาก ProSpace มาเป็นผู้ช่วยของพี่ดูครับ สนใจต้องการขอคำปรึกษาหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ โทร : 085-449-7373 หรือ Email : SALES@PROSPACE.SERVICES

บริการ WiFi rental ของเรา

  • บริการ WiFi สำหรับงานอีเว้นท์
  • รองรับลูกค้าปริมาณมาก
  • สัญญาณเสถียร ต่อครั้งเดียวใช้ได้ทั้งงาน
  • รู้พฤติกรรมลูกค้าผ่าน Heatmap

ประหยัดงบประมาณกับบริการ Business Solution : Firewall as a Services ทางเลือกใหม่สำหรับความปลอดภัยไซเบอร์

ประหยัดงบประมาณกับบริการ Business Solution : Firewall as a Services ทางเลือกใหม่สำหรับความปลอดภัยไซเบอร์

ใครที่กำลังลำบากใจกับการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ให้กับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการจัดการระบบรักษาความปลอดภัยด้วยตัวเอง หรือต้องจ้างพนักงานไอทีมาคอยดูแล ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง และไม่ได้หาง่ายๆ โดยเฉพาะตอนนี้ที่งาน Cybersecurity เป็นที่ต้องการมากในตลาด วันนี้มี ProSpace มีข้อเสนอดีๆ ที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้

ทางเลือกใหม่จาก ProSpace

การเรียกใช้บริการ Business Solution : Firewall as a Services จากทีมงาน ProSpace เป็นการดูแลและจัดการความปลอดภัยของระบบสารสนเทศทั้งหมดให้กับองค์กรธุรกิจแบบเอาท์ซอร์ซ (Outsource) ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย การตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ การมีทีมงานคอยตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน รวมถึงการประเมินช่องโหว่และเตรียมความพร้อมรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วย

ประโยชน์ของการใช้บริการ Firewall as a Services

แน่นอนว่าการมีทีมงานรักษาความปลอดภัยภายในองค์กรเองจะดีมาก แต่พบว่าในงานความปลอดภัยไซเบอร์นี้ต้องการทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญซึ่งหาไม่ได้ง่ายมากนัก รวมถึงมีค่าใช้จ่ายที่สูงซึ่งก็อาจเกินจากงบประมาณที่ตั้งไว้ อีกทั้งการลงทุนในตัวระบบและต้องอัพเดทระบบให้ทันสมัยอยู่เสมอก็มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่การใช้บริการ Business Solution : Firewall as a Services ซึ่งเป็น Cybersecurity IT Outsource จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

ความคุ้มค่าที่ได้รับ

เพราะ Business Solution : Firewall as a Services จะมีทีมบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง พร้อมให้บริการรักษาความปลอดภัยระบบสารสนเทศแบบครบวงจร ทำให้องค์กรไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับจ้างพนักงานประจำ ไม่ต้องลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยด้วยตัวเอง และไม่ต้องกังวลเรื่องการอัพเดทระบบให้ทันสมัยอีกด้วย เพราะ Business Solution : Firewall as a Services จะมีโซลูชันด้านความปลอดภัยที่ทันสมัย มีบุคคลากร มี Know-How ในตัวเทคโนโลยีและอุปกรณ์ รวมถึงการให้บริการก็เป็นแบบเหมาจ่ายตามแพ็กเกจ (Contract) จึงช่วยในการควบคุมงบประมาณ (OpEx) ได้อย่างชัดเจน

ประสิทธิภาพการให้บริการ

ถึงแม้จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า แต่ประสิทธิภาพในการให้บริการก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย เพราะ Business Solution : Firewall as a Services จะมีทีมบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ด้านซิเคียวริตี้ มาช่วยดูแลและตรวจสอบระบบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้ในการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ด้วย ประกอบกับสามารถในการปรับบริการให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละองค์กรได้อย่างดี ทำให้มั่นใจได้เลยว่าปัญหาด้านความปลอดภัยจะถูกจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่สูงจนเกินควร

แบ่งเบาภาระงานไอทีขององค์กร

นอกจากในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ประหยัดลงแล้ว การใช้บริการ Business Solution : Firewall as a Services ยังเป็นการช่วงแบ่งเบาภาระงานด้านการจัดการความปลอดภัยไอที โดยให้ ProSpace เป็นผู้รับช่วงดูแลรับผิดชอบการรักษาความปลอดภัยระบบสารสนเทศทั้งหมด ทำให้เจ้าหน้าที่ไอทีขององค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา ปรับปรุงระบบงานสำคัญอื่นๆ ได้มากยิ่งขึ้น เสมือนมีทีมงานที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านความปลอดภัยคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ช่วยเพิ่มความคล่องตัวและประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมขององค์กรได้เป็นอย่างดี

ทำไมต้องเลือก ProSpace

ProSpace ผู้ให้บริการ Business Solution : Firewall as a Services ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 15 ปีในการให้บริการรักษาความปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศระดับองค์กรในหน่วยงานต่างๆ มากมาย ทั้งหน่วยงานรัฐและภาคเอกชน ProSpace มีบริการครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่การติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย การตรวจจับและป้องกันภัยคุกคาม การตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย ไปจนถึงการประเมินช่องโหว่และความเสี่ยงต่างๆ ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัย

สำหรับใครที่กำลังมองหาผู้ให้บริการ Cybersecurity IT Outsource ที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ ProSpace เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณไม่ควรพลาด เพื่อการรักษาความปลอดภัยขององค์กรในระดับสูงสุด พร้อมทั้งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยเช่นกัน ติดต่อสอบถามข้อมูลติดต่อทีมงาน โทร : 085-449-7373 หรือ Email : SALES@PROSPACE.SERVICES

Firewall as a Service

ช่วยออกแบบความปลอดภัยเน็ตเวิร์ค พร้อมกับทีมผู้เชี่ยวชาญดูแล​

  • Firewall subscription model
  • พร้อมพนักงานบริหารจัดการระบบหลังบ้าน
  • มีการตั้งค่า configuration ตามนโยบายบริษัท
  • มีที่ปรึกษาดูแลระบบตลอดอายุสัญญา

7 วิธีป้องกันตัวเองจากภัยคุกคามออนไลน์ ทำเองได้ ง่ายนิดเดียว

7 วิธีป้องกันตัวเองจากภัยคุกคามออนไลน์ ทำเองได้ ง่ายนิดเดียว

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ความปลอดภัยทุกครั้งที่ใช้งานอินเทอร์เน็ต เล่นโซเซียล เต้น tiktok กลายเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องตระหนักถึงความเสี่ยงและการป้องกันตัวเองจากภัยคุกคามบนโลกออนไลน์ตลอดเวลา พบว่า

  • การโจมตีทางไซเบอร์ 5 อันดับแรกที่มีแนวโน้มว่าจะแพร่หลายมากขึ้นในปี 2024 นี้ ได้แก่ การโจมตีแบบฟิชชิ่ง การโจมตีแบบ Ransomware การโจมตีแบบ Malware การโจมตีแบบ DDoS และการโจมตีแบบ Social Engineering
  • ภัยออนไลน์ที่มักแฝงมากับเว็บไซต์ผิดกฎหมาย เว็บเถื่อน เว็บลามก รวมถึงมาในรูปแบบอีเมลปลอม ลิงก์ ซึ่งมีเหยื่อประมาณ 7.4% หลงเชื่อกรอกข้อมูลบัญชีและพาสเวิร์ด
  • พบว่า กว่า 50% ของเด็กวัย 10-12 ปี เคยเจอเนื้อหาออนไลน์ที่ไม่เหมาะสม
  • การละเมิดความปลอดภัยไซเบอร์ส่วนใหญ่เกิดจากข้อผิดพลาดของตัวมนุษย์เอง
  • เรามีโอกาสพบข้อมูลส่วนตัวของเราได้ จากถุงขนมหรือถุงกล้วยแขกสักถุงหน้าโรงเรียน

ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องมีความรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามออนไลน์ที่อาจเกิดขึ้น และวิธีการจัดการความเสี่ยงเหล่านั้นอย่างเหมาะสม

7 วิธีป้องกันตัวเองจากภัยคุกคามออนไลน์

1. การป้องกัน malware ป้องกันอุปกรณ์ของเราจากมัลแวร์

มัลแวร์เป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว โดยมันสามารถแพร่เข้าสู่อุปกรณ์ของเราได้ผ่านการดาวน์โหลดอะไรแปลกๆ หรือมาจากอีเมลหลอกลวง หรือแม้แต่เว็บไซต์ที่ถูกแฮก วิธีป้องกันคือติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสที่เชื่อถือได้และอัปเดตโปรแกรมให้ทันสมัยอยู่เสมอ สแกนหามัลแวร์บนอุปกรณ์ที่ใช้อยู่เป็นประจำ รวมถึงหลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่น่าสงสัยหรือหลีกเลี่ยงดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่รู้จัก

2. ใช้พาสเวิร์ดที่เดาได้ยากและไม่ใช้ซ้ำกันในแต่ละบัญชี

การใช้พาสเวิร์ดที่ซับซ้อนและไม่ซ้ำกันในแต่ละบัญชีจะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกแฮก นอกจากนี้ ควรเปลี่ยนพาสเวิร์ดเป็นระยะๆ และไม่ใช้พาสเวิร์ดที่เดาได้ง่าย เช่น วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ คำที่เดาง่าย หรือชื่อสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

3. เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (Multi-Factor Authentication, MFA)

การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอนเป็นการเพิ่มชั้นความปลอดภัยในการเข้าถึงบัญชีออนไลน์ของเรา นอกจากการกรอกพาสเวิร์ดแล้ว เรายังต้องกรอกโค้ดที่ส่งมาที่โทรศัพท์หรืออีเมลของเราด้วย ซึ่งอาจจะดูวุ่นวาย หลายขั้นตอนแต่เชื่อเถอะ วิธีการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกแฮกได้มากขึ้น

ภัยคุกคามออนไลน์

4. ระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว

การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไปบนสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คหรือเว็บไซต์ต่างๆ อาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อการถูกแฮก หรือการถูกโจรกรรมข้อมูล ฉะนั้นควรระมัดระวังในการแชร์ข้อมูลส่วนตัว และตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในทุกบัญชีที่เราใช้งาน (สามารถตั้งค่าได้ที่ Settings & privacy บนแอปนั้นๆ)

5. หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์หรือดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

ลิงก์หรือไฟล์ที่ไม่มั่นใจ ให้ระวังหรือเอ๊ะไว้ก่อน เพราะการคลิกลิงก์หรือดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถืออาจนำมัลแวร์เข้าสู่อุปกรณ์ของเราได้ ฉะนั้นควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มาและหลีกเลี่ยงการคลิกหรือดาวน์โหลดจากแหล่งที่ไม่รู้จัก

6. อัปเดตซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันเป็นประจำ

การอัปเดตซอฟต์แวร์ โอเอส และแอปพลิเคชั่นต่างๆ เป็นประจำจะช่วยป้องกันการโจมตีจากมัลแวร์และแฮกเกอร์ เนื่องจากการอัปเดตเวอร์ชั่นใหม่จากผู้ผลิตมักจะมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่ตรวจเจอ ทำให้เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น

7. ใช้เครื่องมือหรือบริการรักษาความปลอดภัยมืออาชีพ

การใช้เครื่องมือและหรือเรียกรับบริการรักษาความปลอดภัย (MSP: Manage Services Provider) เช่น โปรแกรมป้องกันไวรัส, VPN (Virtual Private Network), และไฟร์วอลล์ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณและองค์กรได้เป็นอย่างดี มั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น

การมีจิตสำนึกด้านความปลอดภัย

การมีจิตสำนึกด้านความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้งานทุกคนควรมี ความประมาทเลินเล่อ เช่น การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเกินความจำเป็น การใช้พาสเวิร์ดที่เดาง่าย หรือการละเลยการอัปเดตซอฟต์แวร์ ล้วนแต่เป็นช่องโหว่ที่แฮกเกอร์สามารถแสวงหาประโยชน์ได้ ดังนั้นผู้ใช้งานควรเรียนรู้และปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัย รวมถึงการเติมความรู้ให้ทันสมัยอยู่เสมอ เนื่องจากภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ ก็มักจะถูกคิดค้นขึ้นมาโดยผู้ไม่หวังดีอยู่ตลอด ซึ่งการป้องกันที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้เป็นอย่างมาก

หรือหากพี่ๆ ต้องการที่ปรึกษา หรือ บริการจากผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Firewall หรือความปลอดภัยอื่นๆ ที่สามารถดูแลออฟฟิสพี่ๆ ได้แบบครบวงจร รวมถึงยังสามารถเลือกจ่ายเป็นรายเดือนสอดคล้องกับงบไอที และไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อกล่องไฟร์วอลล์ไว้เองแก้ปัญหาการซื้อไฟร์วอลล์ไปแล้วตกรุ่น ขอแนะนำบริการ Business Solution : Firewall as a Services จาก ProSpace ได้เลยครับ สนใจว่าบริการนี้จะช่วยแก้ไขหรือช่วยเหลือธุรกิจอย่างไร ติดต่อสอบถามข้อมูลติดต่อทีมงาน โทร : 085-449-7373 หรือ Email : SALES@PROSPACE.SERVICES

ทำไมต้องเลือกใช้บริการ WiFi Rental สำหรับงานอีเว้นท์สำคัญ

WiFi Rental สำหรับงานอีเว้นท์

ทำไมต้องเลือกใช้บริการ WiFi Rental สำหรับงานอีเว้นท์สำคัญ

งานอีเว้นท์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงสินค้า งานประชุมสัมมนา หรืองานจัดสอบออนไลน์ล้วนมีความจำเป็นต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตไร้สายที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพสูง แต่ในบางครั้ง WiFi ที่มีอยู่ในสถานที่จัดงานอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ร่วมงานจำนวนมาก ส่งผลให้การใช้งานระบบออนไลน์ต่างๆ ช้าหรือใช้ไม่ได้เลยก็มี นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำไม WiFi Rental จาก ProSpace ถือเป็นบริการที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับงานอีเว้นท์สำคัญทุกประเภท

บริการ WiFi Rental คืออะไร?

WiFi Rental เป็นบริการให้เช่าระบบ WiFi พร้อมอุปกรณ์ควบคุมระบบ Wireless Network ด้วยอุปกรณ์ Access Point ระดับ Enterprise Grade ที่เลือกมาใช้ในการจัดงานไม่ว่าจะเป็น งานประชุมสัมมนา งานจัดสอบออนไลน์ หรือ งานแสดงสินค้า โดยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้าน WiFi และระบบ Network ที่จะเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบการติดตั้งและปรับแต่งระบบให้สามารถรองรับจำนวนผู้ใช้งานและความต้องการใช้งานอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ทำไมต้องใช้ WiFi Rental จาก ProSpace?

1. รองรับจำนวนผู้ใช้งานจำนวนมาก

ในงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก การพึ่งพา WiFi ที่มีอยู่ในสถานที่จัดงานอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากอุปกรณ์ Access Point มีข้อจำกัดในการรองรับจำนวนผู้ใช้งานและการแชร์แบนด์วิดท์ การใช้บริการ WiFi Rental จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เนื่องจากระบบจะถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้ใช้งานจำนวนมากโดยเฉพาะ (WiFi for Hidensity Area)

2. ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแต่ละงาน

ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ ProSpace จะวิเคราะห์รายละเอียดของงาน เช่น ขนาดพื้นที่ จำนวนผู้เข้าร่วม และความต้องการในการใช้งานระบบออนไลน์ต่างๆ เพื่อออกแบบระบบ WiFi ที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของงานนั้นๆ ได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วหรือความครอบคลุมของสัญญาณภายในบริเวณงานทั้งหมด รวมถึงการแสตนบายอยู่ในพื้นที่ตลอดช่วงวันงานเพื่อแก้ไข หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

3. การบริการและประสบการณ์ระดับมืออาชีพ  

ด้วยประสบการณ์การจัดวางระบบ WiFi ให้กับงานประชุมระดับประเทศและระดับนานาชาติมากมาย ทำให้ทีมงานของ ProSpace มีความเชี่ยวชาญในการควบคุมและจัดการระบบ Network ในระดับสูง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการระดับมืออาชีพที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

ประโยชน์ของ WiFi Rental สำหรับงานอีเว้นท์

การจัดงานประชุม สัมมนา (Meetings & Seminars & Concerts)

สำหรับงานประชุม สัมมนาหรือ Workshop ที่ผู้เข้าร่วมต้องใช้งานคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป หรือแท็บเล็ตร่วมด้วยนั้น จำเป็นต้องมี WiFi ที่เสถียรพอสำหรับการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้เข้าร่วมจำนวนมาก แม้ว่าหลายสถานที่จะมีอินเทอร์เน็ตให้บริการอยู่แล้ว แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องการใช้ปริมาณมาก ความเร็วอาจไม่เพียงพอ

บริการ WiFi Rental ของ ProSpace จะช่วยแก้ปัญหาการใช้งาน WiFi ที่ไม่เพียงพอสำหรับผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากได้เป็นอย่างดี โดยระบบจะถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้เข้าร่วมทุกคนอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการประชุม การสอบออนไลน์ การสตรีมมิ่งวิดีโอ หรือการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ 

งานแสดงสินค้า (Show Events & Fairs)

ในปัจจุบัน ร้านค้าหลายแห่งนำระบบ POS การเก็บเงิน ระบบตัดสต็อกสินค้าออนไลน์ รวมถึงระบบการชำระเงินแบบดิจิทัลมาใช้ในงาน ระบบเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยสัญญาณ WiFi ที่มีเสถียรภาพและความเร็วเพียงพอสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงิน ดังนั้น การใช้บริการ WiFi Rental จะช่วยให้ร้านค้าสามารถดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตลาด MICE ในประเทศไทยกำลังเติบโต

จากข้อมูลทางการตลาด พบว่าธุรกิจการจัดประชุมนิทรรศการ และการท่องเที่ยว หรือที่รู้จักกันดีในนาม MICE (Meetings, Incentives, Conventions, Exhibitions) ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตและมีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากหลายปัจจัยที่มาสนับสนุน ได้แก่

  • ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสำหรับตลาดธุรกิจ MICE จากหลายประเทศ เนื่องจากมีความพร้อมด้านสถานที่จัดงาน โรงแรม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
  • ธุรกิจ MICE ส่งผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย โดยก่อให้เกิดรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก เนื่องจากผู้เข้าร่วมงานมักมีการใช้จ่ายค่อนข้างสูง ทั้งของตัวเองและของครอบครัวที่มาด้วยกัน ทั้งก่อนงานและหลังงาน
  • ภาครัฐให้ความสำคัญและผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการจัดงาน MICE ของภูมิภาค โดยมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่จัดงาน สาธารณูปโภค การเดินทางและการขนส่งต่างๆ 
  • ไทยมีศักยภาพในการเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับนานาชาติ เนื่องจากมีความพร้อมด้านสถานที่ โรงแรม และความปลอดภัย รวมไปถึงความงดงาม ขนบธรรมเนียม ประเพณี คุณภาพการให้บริการของไทย ก็เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร

ตลาด MICE ในไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตและถูกผลักดันให้เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคมากขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ในฐานะผู้ให้บริการ WiFi Rental สำหรับงานอีเว้นท์ต่างๆ ทีม ProSpace พร้อมที่จะตอบรับความต้องการในการจัดงาน MICE ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน

 

บริการ WiFi Rental จาก ProSpace เป็นทางเลือกที่ได้รับการยอมรับจากงานอีเว้นท์ระดับประเทศเป็นจำนวนมาก ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ลูกค้าจะได้รับบริการระบบ WiFi ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมการดูแลตลอดงาน เพื่อความราบรื่นและสำเร็จอย่างมืออาชีพของงานอีเว้นท์ที่สำคัญนั้น สนใจหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ โทร : 085-449-7373 หรือ Email : SALES@PROSPACE.SERVICES

บริการ WiFi rental ของเรา

  • บริการ WiFi สำหรับงานอีเว้นท์
  • รองรับลูกค้าปริมาณมาก
  • สัญญาณเสถียร ต่อครั้งเดียวใช้ได้ทั้งงาน
  • รู้พฤติกรรมลูกค้าผ่าน Heatmap

ปรึกษาการเช่าระบบ WiFi rental

ทีมงานจะติดต่อกลับไป

แย่แล้ว! LINE Keep ยกเลิก ลองให้ JotT ช่วยเก็บแทนสิ

Line Keep ยกเลิก

แย่แล้ว! LINE Keep ยกเลิก ลองให้ JotT ช่วยเก็บแทนสิ

LINE Keep ยกเลิกให้บริการ – อย่าปล่อยให้ข้อมูลหาย!

LINE ได้ประกาศว่าในวันที่ 28 สิงหาคม 2567 ฟีเจอร์ ‘LINE Keep’ จะถูกยกเลิกการใช้งาน และไฟล์ที่เคยเก็บไว้ใน LINE Keep จะถูกลบ ซึ่งทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกกังวลเกี่ยวกับข้อมูลสำคัญของตน

เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลของคุณจะไม่หายไป LINE ได้แนะนำให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์จาก Keep มายังอุปกรณ์ของตัวเอง แต่ในระยะยาว คุณจะต้องทำอย่างไรกันดี ? 

 

ไม่ต้องกลัว JotT - เพื่อนใหม่ในการจัดเก็บข้อมูลใน LINE

ในเวลาที่ LINE Keep ถูกยกเลิก JotT คือทางเลือกใหม่ สำหรับการจัดเก็บข้อมูลสำคัญๆ ในไลน์ JotT คือ LINE Bot ที่สามารถบันทึกบทสนทนา คัดลอกไฟล์ไปเก็บไว้บนคลาวด์ และทำให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยจากการสูญหาย

ทำไมต้องเลือก JotT?

  1. บันทึกทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย: ไม่ว่าจะเป็นข้อความ, ภาพถ่าย, วิดีโอ, หรือไฟล์เอกสารสำคัญ JotT ช่วยให้คุณบันทึกทุกอย่างได้ในที่เดียว
  2. ค้นหาง่าย, จัดการสะดวก: คุณสามารถค้นหาและย้อนดูประวัติได้อย่างง่ายดาย
  3. ปลอดภัยสูงสุด: ข้อมูลของคุณจะถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัยในคลาวด์ พร้อมการเข้ารหัสขั้นสูง