ทางลัดไปอ่าน
Toggleเทคโนโลยี AI กับการเปลี่ยนโฉมการรักษาความปลอดภัยองค์กร
ในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์พัฒนาความซับซ้อนขึ้นทุกวัน การนำ AI มาประยุกต์ใช้ในระบบรักษาความปลอดภัยกลายเป็นความจำเป็นเร่งด่วน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ FortiAI จาก Fortinet โซลูชั่นความปลอดภัยอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ช่วยปกป้ององค์กรจากภัยคุกคามเกิดใหม่ ลดภาระทีม SOC/NOC ปกป้องระบบ AI จากการโจมตี และจัดการการใช้งาน GenAI อย่างปลอดภัย ผ่านโซลูชั่นหลัก 3 ส่วน ได้แก่ FortiAI-Protect, FortiAI-Assist และ FortiAI-SecureAI ที่ทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อภายใต้แพลตฟอร์ม Fortinet Security Fabric

เมื่อ AI กลายเป็นอาวุธของแฮกเกอร์
เทคโนโลยี AI ไม่ได้ถูกผลิตขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเท่านั้น ในทางกลับกัน กลุ่มแฮกเกอร์ได้นำ AI มาใช้เป็นอาวุธในการโจมตีที่มีความซับซ้อนและแยบยลมากขึ้น การโจมตีที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถหลบเลี่ยงมาตรการรักษาความปลอดภัยแบบดั้งเดิมได้อย่างแนบเนียน ทำให้องค์กรทั่วโลกต้องเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยพบมาก่อน
ทีม Security Operation Center (SOC) และ Network Operation Center (NOC) ของแต่ละองค์กรมักประสบปัญหาด้วยการถูกข้อความแจ้งเตือนจำนวนมากและแทบจะตลอดเวลา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการโจมตีรูปแบบใหม่ ทำให้เจ้าหน้าที่อาจพลาดการตรวจจับภัยคุกคามที่แท้จริง ส่งผลให้การตอบสนองล่าช้า หรือเกิดข้อผิดพลาดจากปัจจัยมนุษย์ (Human Errors)
อีกอย่างตัวระบบ AI เองก็มีจุดอ่อนต่อการโจมตีหลากหลายรูปแบบ เช่น Data Poisoning หรือ Adversarial Attacks ซึ่งสามารถทำลายความถูกต้องและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลในโมเดล Large Language Model (LLM) ได้
อีกประเด็นที่สำคัญคือความกังวลที่เกิดจากการขาดการมองเห็นและควบคุมการใช้งาน Generative AI (GenAI) ในองค์กร ซึ่งนำไปสู่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น การรั่วไหลของข้อมูลสำคัญผ่านการใช้งาน ChatGPT หรือเครื่องมือ GenAI อื่นๆ โดยไม่ผ่านการพิจารณาด้านความปลอดภัย
FortiAI: เมื่อ AI ต้องต่อสู้กับ AI
FortiAI เป็นโซลูชั่นความปลอดภัยอัจฉริยะที่ทำงานแบบเรียลไทม์เพื่อปกป้ององค์กรจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นใหม่อย่างเชิงรุก ซึ่งถูกออกแบบให้ตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็ว และอัตโนมัติการดำเนินงานด้านความปลอดภัยและเครือข่าย ทั้งหมดนี้เพื่อเพิ่มความพร้อมใช้งานของเครือข่ายและปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดีที่สุด
จุดเด่นของ FortiAI อยู่ที่การผสานรวมอย่างไร้รอยต่อภายใน Fortinet Security Fabric โดยใช้ประโยชน์จากทีมผู้พัฒนา AI ที่มีความเชี่ยวชาญสูงซึ่งพัฒนามากว่า 15 ปี มีสิทธิบัตรและการยื่นขอสิทธิบัตรด้าน AI มากกว่า 500 รายการ ด้วยเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งทั่วโลกมากกว่า 40 ล้านตัว FortiAI นำข้อมูลเชิงลึกมาใช้งานในเวลาจริง เพื่อมอบการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามที่เหนือชั้นกว่า
3 เสาหลักที่ทำให้ FortiAI แตกต่าง
- FortiAI-Protect: การป้องกันอัจฉริยะด้วยตัวกรองเรียลไทม์ | FortiAI-Protect ปกป้ององค์กรด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่สามารถบล็อกภัยคุกคามใหม่และที่กำลังเกิดขึ้น ด้วยการประเมินความเสี่ยงตามบริบทที่จะช่วยจัดลำดับความสำคัญของการตอบสนอง ทำให้ทีมงานด้านความปลอดภัยสามารถมุ่งเน้นไปที่ภัยคุกคามที่มีนัยสำคัญได้อย่างแม่นยำ และลดการแจ้งเตือนที่ผิดพลาด (false positive)
กลไก AI ขั้นสูงของ FortiAI-Protect มีความสามารถค้นพบภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ รวมถึงการใช้งาน AI ที่ไม่ได้รับอนุญาตในเครือข่าย ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ระบบป้องกันการบุกรุก (intrusion prevention) ที่ได้รับการยกระดับสามารถหยุดการโจมตีที่มีความซับซ้อนและใช้เทคนิคการหลบเลี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดเด่นอีกประการของ FortiAI-Protect คือความสามารถในการบังคับใช้การใช้งาน AI อย่างปลอดภัยด้วยการตรวจจับแบบเรียลไทม์ การให้ความรู้แก่ผู้ใช้ และการควบคุมนโยบาย ทำให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI โดยยังคงรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ - FortiAI-Assist: ผู้ช่วยอัตโนมัติที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง | FortiAI-Assist เสมือนผู้ช่วยดิจิทัลที่ทำงาน 24/7 โดยทำงานด้านความปลอดภัยตั้งแต่การอัปเดตนโยบายไปจนถึงการแก้ไขการกำหนดค่าที่ผิดพลาด ช่วยให้การดำเนินงานด้านเครือข่ายเป็นไปอย่างราบรื่น โดยแก้ไขปัญหาเชิงรุกและอัตโนมัติก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้
หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือการคัดกรองการแจ้งเตือนอัจฉริยะซึ่งจัดลำดับความสำคัญของภัยคุกคามที่มีความเสี่ยงสูง และระงับการแจ้งเตือนที่ซ้ำซ้อน โดยระบบจะค้นหาภัยคุกคามโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากมนุษย์
นอกจากนี้ FortiAI-Assist ยังมีความสามารถในการติดตามต้นตอของปัญหาซึ่งช่วยทีมงานระบุแหล่งกำเนิดของการโจมตีได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่การเสริมตัวกรองภัยคุกคามที่ช่วยปรับปรุงความสามารถในการป้องกันเชิงรุก โดยรวมแล้ว FortiAI-Assist เป็นเสมือนสมาชิกในทีมที่ไม่เคยหยุดพัก ช่วยลดภาระงานที่ซ้ำซาก และเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อภัยคุกคาม - FortiAI-SecureAI: ปกป้องระบบ AI จากภัยคุกคาม | ในยุคที่องค์กรต่างๆ เริ่มนำ AI มาใช้งานมากขึ้น การปกป้องระบบ AI เองก็กลายเป็นความท้าทายใหม่ FortiAI-SecureAI มอบความปลอดภัยแบบหลายชั้นสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันเครือข่าย การปกป้องเว็บ API ไปจนถึงการตรวจสอบ Workload บนคลาวด์โดยไม่ต้องอาศัยกฎที่ซับซ้อน
การเข้าถึงแบบ Zero-trust ถูกนำมาใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยของโมเดล AI ในขณะที่ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลได้รับการดูแลผ่านการป้องกันการรั่วไหลของ LLM และเทคนิคการหลอกล่อ (deception tactics) ช่วยให้องค์กรสามารถตรวจจับการโจมตีได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
FortiAI-SecureAI ทำให้มั่นใจได้ว่าระบบ AI ขององค์กรได้รับการปกป้องครอบคลุม ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงข้อมูล ช่วยปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาและรักษาการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

AI กับอนาคตของความปลอดภัยไซเบอร์
โลกของความปลอดภัยไซเบอร์กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ยิ่งภัยคุกคามมีความซับซ้อนมากขึ้นเท่าไร ระบบป้องกันก็ต้องฉลาดขึ้นเท่านั้น การผสานรวม AI เข้ากับความปลอดภัยไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นทิศทางที่จำเป็นในการต่อสู้กับภัยคุกคามที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
FortiAI ไม่เพียงแต่ช่วยปกป้ององค์กรจากการโจมตีที่ขับเคลื่อนด้วย AI แต่ยังช่วยทีม Security ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการอัตโนมัติงานที่ซ้ำซ้อนและต้องใช้แรงงานมาก เป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ สนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติตต่อทีมงาน ProSpace สำหรับบริการติดตั้งและดูแล Fortinet ได้แล้ววันนี้ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ProSpace ได้ที่ โทร : 085-449-7373 หรือ Email SALES@PROSPACE.SERVICE หรือทำนัดเราเพื่อรับการปรึกษาฟรีได้เลย