Dark Web ภัยร้ายสำหรับองค์กร พร้อมวิธีรับมือความปลอดภัยเบื้องต้น
Dark Web เป็นส่วนหนึ่งของอินเทอร์เน็ตที่เต็มไปด้วยความลับและความยากลำบากในการค้นหา ที่ถูกเข้ารหัสและซ่อนอยู่ และเน้นความปลอดภัยของผู้ใช้โดยใช้ระบบ Tor
แต่หากมองในมุมขององค์กร Dark Web มีการใช้งานที่ไม่พึงประสงค์จนสามารถสร้างผลร้ายต่อองค์กร ข้อมูลสำคัญและความปลอดภัยหลากหลายอย่างในพื้นที่หวงห้ามขององค์กรอาจถูกทำสำเนาและปรากฏบน Dark Web และกลายเป็นเป้าหมายให้ผู้ไม่หวังดีโจมตีหรือมุ่งร้าย
บทความนี้จะสำรวจความเสี่ยง Dark Web ภัยร้ายสำหรับองค์กรและแสดงถึงวิธีที่องค์กรสามารถป้องกันความปลอดภัยในโลกของ Dark Web
ความเสี่ยงบน Dark Web ภัยร้ายสำหรับองค์กร
1. การบุกรุกและการรั่วไหลของข้อมูล
การบุกรุกและการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญเป็นหนึ่งในภัยร้ายที่มากที่สุดขององค์กร ใน Dark Web ข้อมูลสำคัญเช่นข้อมูลลูกค้า, ข้อมูลส่วนบุคคล, หรือความลับธุรกิจอาจถูกคนอื่นขโมยและรั่วไหลไปยังหลายแหล่งที่นำข้อมูลนี้ไปใช้ในวัตถุประสงค์ที่ไม่ดี
2. การขายข้อมูลในตลาดมืด
บน Dark Web ข้อมูลส่วนตัวของคนอื่นอาจถูกลักลอบขโมยมาขาย องค์กรจะต้องระวังเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลของตนเองเพื่อไม่ให้ข้อมูลนี้รั่วไหลออกไป เพราะอาจสร้างผลร้ายให้กับองค์กรไม่ว่าจะผิดกฎหมาย PDPA หรือลูกค้าหมดความไว้เนื้อเชื่อในองค์กรของคุณก็ตาม
3. การตรวจสอบความปลอดภัยของศูนย์เก็บข้อมูล (Data Center)
ศูนย์ข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรอาจเป็นเป้าหมายของผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการปลดล็อคความปลอดภัยขององค์กร และนำข้อมูลไปเผยแพร่บน Dark Web โดยไม่สามารถติดตามตัวผู้กระทำผิด และผู้ไม่หวังดีได้
4. การปล่อยมัลแวร์และอุปกรณ์ควบคุมระบบองค์กร
มัลแวร์และอุปกรณ์ควบคุมอาจถูกนำมาใช้ในการบุกรุกหรือควบคุมระบบขององค์กร โดยการเผยแพร่อุปกรณ์ที่อาจทำให้คนอื่นควบคุมเซิร์ฟเวอร์หรือคอมพิวเตอร์ภายในองค์กรได้ ซึ่งเป็นฝันร้ายของผู้ดูแลระบบขององค์กรอย่างยิ่งยวด
5. การค้าขายไม่พึงประสงค์เพื่อทำร้ายองค์กร
ข้อมูลที่มีมูลค่าในองค์กรอาจถูกตั้งขายใน Dark Web เช่น จ้างฝ่าฝืนความปลอดภัย บริการบุกรุกองค์กร x หรือการเข้าถึงระบบภายในขององค์กร ซึ่งผู้ไม่หวังดีอาจจ้างเหล่านักเจาะระบบเพื่อมุ่งหวังร้ายในองค์กรใดองค์หนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งหวังว่าจะองค์กรของคุณจะไม่ตกเป็นเหยื่อ
6. การสอบสวนและการตรวจค้น
การสอบสวนและการตรวจค้นความปลอดภัยบน Dark Web มีความยากลำบาก นอกจากจะทดสอบระะบบความปลอดภัยขององค์กรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันผู้บุกรุกและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
การป้องกัน Darkweb ภัยร้ายสำหรับองค์กร เบื้องต้น
1. การใช้ระบบ Firewall
การใช้ระบบ Firewall ในองค์กรช่วยป้องกันการเข้าถึงไม่พึงประสงค์และความรุนแรงจาก Dark Web ได้
2. การเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล
การเข้ารหัสข้อมูลและใช้มาตรฐานความปลอดภัยเพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญและความลับขององค์กร
3. การสอนพนักงาน
การสอนพนักงานเรื่องความปลอดภัยและป้องกันความเสี่ยงจะช่วยให้พวกเขาเข้าใจถึงความเสี่ยงและการป้องกันในองค์กรได้
4. การตรวจสอบความปลอดภัยและการตอบสนอง
องค์กรควรตรวจสอบความปลอดภัยของตนอย่างสม่ำเสมอและมีการตอบสนองที่รวดเร็วเมื่อพบกับความเสี่ยงจาก Dark Web
5. การควบคุมการเข้าถึง
การควบคุมการเข้าถึงระบบขององค์กร เช่น การใช้ระบบยืนยันตัวตน การระบุสิทธิ์การเข้าถึง เป็นต้น จะช่วยลดความเสี่ยงจากการบุกรุกจาก Dark Web ได้
สรุป
Dark Web เป็นอีกโลกที่มีความซับซ้อนและเสี่ยงสูงสำหรับองค์กร การรู้จักความเสี่ยงและการป้องกันความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่องค์กรควรมีในการรักษาข้อมูลและความลับของตนเองในโลกของ Dark Web การใช้เทคโนโลยีและมาตรฐานความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการบุกรุกและการรั่วไหลข้อมูลที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีการเชื่อมต่อของเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรกับเว็บไซต์หรือเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่อาจเป็นจุดบุกรุกหรือการโจมตี องค์กรควรรับมือกับ Dark Web ด้วยความระมัดระวังและความสำรวจในการเข้าถึงออนไลน์อยู่เสมอ เพื่อปกป้องความปลอดภัยจากภัยร้ายของ Dark Web
มอบส่วนลดราคาพิเศษสำหรับองค์กร จำนวนจำกัด
ป้องกันข้อมูลรั่วไหล
FWaaS ช่วยป้องกันการรั่วไหลข้อมูลจากภัยร้ายที่อาจเกิดขึ้นจาก Darkweb โดยระบบ Firewall จะตรวจสอบและบล็อกการถ่ายโอนข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาตไปยังพื้นที่ที่ไม่เชื่อถือ ที่อาจเป็นที่มาของข้อมูลที่รั่วไหลหรือถูกขโมย
ป้องกัน Brute Force Attack
FWaaS ช่วยป้องกันกาโจมตีจาก Darkweb โดยป้องกันคนที่พยายามเข้าถึงเครือข่ายคอมพิวเตอร์โดยใช้วิธีการลอบเข้ารหัสผ่านหรือพยายามทดลองรหัสผ่านอย่างเร็ว และมันป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้าถึงเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
ป้องกันการโจมตีแบบ DDoS
FWaaS ช่วยป้องกันการโจมตี DDoS ที่อาจเกิดจาก Darkweb หรือกลุ่มผู้ไม่หวังดี โดยการกระจายการโจมตีจากหลายแหล่งพร้อมกัน บริการ FaaS จะทำการตรวจจับและป้องกันการโจมตี DDoS โดยปรับความสามารถในการรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่มากขึ้น